หลายบริษัทใช้การเล่าเรื่องขายสินค้า หรือที่เรียกว่าการพรีเซนเทชั่น เป็นการพูดแบบใช้โฆษณาแฝง ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นถึงแม้จะไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์นั้นเลย จะเห็นได้ว่าเทคนิคการเล่าเรื่องนั้นถือว่าสำคัญมากในการทำให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ
การเล่าเรื่องให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะตัวผู้พูด ความรู้สึกตื่นเต้นอาจทำให้การพูดออกมาไม่ประสบความสำเร็จ เพราะอาจทำให้ผู้ฟังหมดความสนใจในเรื่องที่กำลังฟังอยู่ จับใจความสิ่งที่เราพูดไม่ได้ สำหรับวิธีที่สามารถมาประยุกต์ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยมในการเล่าเรื่องทางธุรกิจ มีดังนี้
1.สื่อความหมายด้วยภาพ เราสามารถใช้ภาษาสร้างภาพขึ้นมาได้ โดยใช้คำพูดที่สามารถสื่อความหมาย ภาพ และอารมณ์ได้อย่างชัดเจน เพื่อทำให้ผู้ฟังได้สัมผัสกลิ่น สี รสผ่านคำพูดของเรา แล้วจึงค่อยเชื่อมโยงให้ผู้ฟังเห็นความเกี่ยวโยงของภาพที่เรานำเสนอไป กับสารที่เราต้องการนำเสนอ หรือใช้น้ำเสียงและสายตาเน้นคำพูดให้มีน้ำหนักมากขึ้นจนคนฟังเกิดความตื่นเต้น
2.ลำดับเรื่องราวให้น่าติดตาม ยิ่งเล่าได้มีลำดับน่าติดตามยิ่งทำให้สนใจ โดยหลักในการลำดับเรื่องราวมีหัวข้อย่อยๆ ดังนี้
2.1 เล่าสถานการณ์ในปัจจุบันว่าภาพรวมเป็นอย่างไร เช่นอาจเป็นภาพรวมของสังคมหรือสภาพแวดล้อมของเหตุการณ์นั้นๆ เพื่อให้คนฟังเข้าใจว่าเรื่องที่กำลังจะฟังต่อไปนี้เกิดขึ้นที่ไหน เวลาใด และมีบริบทแวดล้อมอะไรบ้าง
2.2 หลังจากเล่าสภาพแวดล้อมทั่วไปแล้ว จึงค่อยเริ่มนำผู้ฟังเข้าสู่ช่วงปมปัญหา โดยเล่าให้ผู้ฟังเห็นภาพว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับตัวเอกในเรื่องเล่า และปัญหานั้นก่อให้เกิดความขัดแย้งในจิตใจหรือสถานการณ์นั้นอย่างไร
2.3 จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงเหตุการณ์ที่ตัวเอกตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อจัดการกับปัญหานั้นๆ เป็นจุดที่ทำให้สถานการณ์ปัญหาทั้งหมดมาถึงจุดเปลี่ยน
2.4 มาถึงตอนนี้ปัญหาจึงมาถึงจุดคลี่คลาย เป็นช่วงที่ปัญหาต่างๆ ถูกแก้ไข เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตและสภาพแวดล้อมของตัวเอก
2.5 หลังจากความเปลี่ยนแปลงแล้ว เราจึงเข้าสู่ช่วงอธิบายภาพสถานการณ์ใหม่หลังการเปลี่ยนแปลงให้คนอ่านได้เห็นว่าตอนนี้เรื่องราวได้พลิกผันกลายเป็นอย่างไร ซึ่งภาพหลังการเปลี่ยนแปลงนี้มักจะเป็นภาพที่ดีกว่าสถานการณ์แรกเริ่มสุด เนื่องจากได้ผ่านจุดแก้ปมปัญหามาแล้ว
โดยหลักการเล่าเรื่องสามารถนำมาประยุกต์กับธุรกิจได้ ช่วยสร้างภาพลักษณ์อันดีต่อผู้บริโภค และมาสนับสนุนสินค้าและบริการของเรา